เชื่อว่าหลายๆคนที่ต้องการเริ่มหัดออกกำลังกายอาจเคยประสบกับปัญหาเลือกชนิดของการออกกำลังกายไม่ถูก
โดยเฉพาะคนที่ชอบทำอะไรคนเดียว อยากแค่หากิจกรรมอย่างบางอย่างที่ทำได้คนเดียวเพื่อออกกำลังกายแต่ไม่รู้จะเริ่มจากอะไรดี
สุดท้ายแล้วคำตอบที่ใกล้เคียงกับความต้องการและทำได้ง่ายที่สุดก็คือการวิ่ง ผู้ที่นิยมการทำกิจกรรมคนเดียวจำนวนมากจึงเลือกการวิ่งจ๊อกกิ้งเป็นจุดเริ่มต้นของการออกกำลังกาย
สุดยอดกีฬาเบสิคของมวลมนุษยชาติ เพราะเป็นกีฬาที่ไม่ต้องใช้อุปกรณ์ใดๆเลยนอกจากชุดออกกำลังกายสบายๆกับรองเท้ากีฬาดีๆสักคู่
หรือถ้าเป็นไปได้เพิ่ม MP3
เสียบหูเข้าไปซะหน่อยล่ะก็แจ่มเลย เท่านี้แหละ
เตรียมตัว! ระวัง! ไป!!!
.
..
... แต่แล้วก็นะ...
วิ่งไปไม่ทันไร มือใหม่หัดวิ่งจำนวนมากก็ต้องมาเจอกับปัญหายอดฮิตอันดับหนึ่งเข้าจนได้
นั่นก็คือความเบื่อนั่นเอง มันก็ว่ากันไม่ได้นี่นา ให้วิ่งวนไปวนมาอยู่ในสวนไม่รู้ตั้งกี่รอบ
วิ่งไปไม่ทันไรเดี๋ยวก็กลับมาเห็นวิวเดิมๆอีกแล้ว ใจฮึดๆที่ติดไฟลุกโชนในตอนแรกเผลอแป๊บเดียวก็เริ่มจะมอดซะแล้ว
ถ้าว่ากันตามจริง ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมอะไรหากทำไปเรื่อยๆโดยไม่มีจุดมุ่งหมายมันก็ต้องเบื่อเข้าสักวันเป็นธรรมดา
ปัญหาของคนออกกำลังกายที่ไฟมอดลงไปกลางคันส่วนใหญ่ก็เป็นเพราะจุดมุ่งหมายที่ตั้งเอาไว้ในตอนแรกมีพลังไม่มากพอ
พอเป้าหมายไม่แน่วแน่ ทำๆไปจนเริ่มเบื่อแล้วก็เลยพาลจะทิ้งกันไปเสียอย่างนั้น ถ้าอย่างนั้นเราก็ควรจะลองมาปรับเปลี่ยนทัศนคติซะใหม่
เราอยากขอเสนอให้คุณลองเริ่มต้นใหม่ด้วยการตั้ง ‘เป้าหมาย’ ที่ชัดเจนไว้และสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือต้องไม่ลืมความตั้งใจนั้น
เราอยากเสนอเคล็บลับที่ง่ายแสนง่ายที่จะช่วยให้การออกกำลังกายเป็นเรื่องที่ไม่น่าเบื่ออีกต่อไป
นั่นก็คือ ลองคิดใหม่ให้ ‘การออกกำลังกายเป็นการแข่งขัน’ มนุษย์เรามีสัญชาตญาณแห่งความต้องการเอาชนะอยู่ในตนเองเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
หากคุณชอบออกกำลังกายคนเดียวก็แค่ทำเสมือนว่ากำลังแข่งขันอยู่กับตัวเองในทุกๆวัน
ลองคิดให้สถิติที่เราทำได้ในแต่ละวันเป็นเป้าหมายที่จะต้องทำลายให้ได้ในวันถัดๆไปเรื่อยๆ
เท่านี้ก็จะเป็นการกระตุ้นให้ไฟในการออกกำลังกายของเราลุกโชนได้อยู่ทุกวันแล้ว
แต่ทั้งนี้ Healthy Life Booster ก็ขอเป็นอีกหนึ่งแรงใจที่จะคอยเอาใจช่วยคุณด้วยการนำเสนอตัวช่วยที่จะทำให้การออกกำลังกายตามเป้าหมายในทุกๆวันของคุณมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
หนึ่งในแอพพลิเคชั่นคู่ใจของนักวิ่งที่ใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยากซับซ้อน และที่สำคัญ
หากคุณไม่ได้ต้องการการแสดงผลตัวเลขต่างๆในขั้นสูงแล้วก็มีเวอร์ชั่นฟรีไว้ให้ใช้งานกันอย่างไม่ต้องเสียเงินด้วย
แอพพลิเคชั่นที่ว่านี้ก็คือ Strava
Stravaเป็นแอพพลิเคชั่นที่ใช้ได้ทั้งสำหรับการวิ่งและการปั่นจักรยานในแอพเดียว
การทำงานของมันก็ช่างง่ายดาย หากท่านเป็นนั่งวิ่งมือใหม่เราก็ขอแนะนำให้ท่านลองแบบดาวน์โหลดเวอร์ชั่นฟรีมาทดลองใช้ดูก่อน
เพราะคุณสมบัติพื้นฐานของมันตรงนั้นก็พอจะมำให้การเก็บสถิติการวิ่งของเราในแต่ละวันมาเปรียบเทียบกันได้แล้ว
เมื่อดาวน์โหลดแอพลงมือถือและเปิดแอพพลิเคชั่นขึ้นมา
ระบบจะให้คุณ sign in ซึ่งคุณสามารถเลือกได้เลยว่าจะทำโดยใช้ e-mail หรือ facebook
หลังจากนั้นระบบก็จะโชว์หน้าตั้งต้นขึ้นมา
ซึ่งเราสามารถเลือกและเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาว่าจะเก็บสถิติของกีฬาวิ่งหรือปั่นจักรยาน
สำหรับวันนี้ที่เรานำเสนอเรื่องการวิ่งก็จะขออนุญาตสาทิตการใช้แอพเพื่อเก็บค่าการวิ่งก่อนเลย
Strava จะทำการเก็บค่าระยะทางการวิ่งของเราผ่านการทำงานของ
GPS เพราะฉะนั้นจึงไม่ต้องห่วงว่าเราจะต้องเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตหรือไม่
ขอเพียงเราพกโทรศัพท์มือถือไปด้วยตลอดการวิ่งเท่านั้นระบบก็จะติดตามเราไปได้ตลอดโดยไม่มีปัญหาแล้ว

จากหน้าตั้งต้นนี้
เมื่อเราเริ่มกด Record ระบบก็จะเริ่มจับเวลาและระยะทางการวิ่งของเราไปเรื่อยๆจนกว่าจะกด
pause เพื่อหยุดพักหรือ stop เพื่อสิ้นสุดการจับเวลาและระยะทาง
ในเวอร์ชั่นฟรีนี้สิ่งที่เราจะได้รับเมื่อสิ้นสุดการ record โดยแอพก็คือ แผนที่การวิ่งของเรา, เวลาที่ใช้ในการวิ่ง, ระยะทางที่วิ่ง, ความเร็วของการวิ่งโดยเฉลี่ย อันดับของคุณภาพของการวิ่งของเราในวันนั้นๆในบรรดาคนที่วิ่งโดยใช้แอพพลิเคชั่น
และยังให้เราสามารถแชร์ข้อมูลการวิ่งของเราผ่าน social media อื่นๆได้ทันทีอีกด้วย
และที่พิเศษก็คือหากเราเชื่อมต่อการทำงานของแอพเข้ากับสัญญาณของอุปกรณ์เพื่อการวัดชีพจรแล้วล่ะก็ยังจะสามารถดูค่าการเผาผลาญแคลอรี่ได้อีกด้วย แค่ข้อมูลพื้นฐานดังกล่าวนี้ เราก็จะสามารถทำให้การวิ่งธรรมดาๆกลายเป็นแข่งขันกับสถิติของตัวเองในทุกๆวันได้แล้ว ลองกำหนดตัวตั้งของคุณดูว่าจะเอาเป็นเวลาในการวิ่งหรือเป็นระยะทางดีนะ ลองออกแบบเป้าหมายของคุณขึ้นมาหลายๆแบบ เช่น จะวิ่งได้ให้ระยะทางมากขึ้นทุกวันๆ จะวิ่งในระยะเวลาที่นานขึ้นทุกวันๆ หรือจะกำหนดเป็นผลรวมรายสัปดาห์ เช่น จะวิ่งให้ได้ 50 กม.ใน 1 สัปดาห์ จะวิ่งให้ได้ 5 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อยใน 1 สัปดาห์ หรือจะเป็นอะไรก็ได้ รับรองว่าการเริ่มมีเป้าหมายที่เป็นรูปธรรมอย่างนี้จะนำคุณไปสู่การออกกำลังกายที่สนุกขึ้นอย่างแน่นอน

นอกจากนั้น Strava ยังเป็นแอพ Social media ที่ให้เราสามารถกด follow เพื่อติดตามความเคลื่อนไหวของนักวิ่งคนอื่นๆ
พร้อมทั้ง post comment, กด like ผลการวิ่งของเขาได้อีกด้วย
และสำหรับใครที่ต้องการใช้งานในระดับที่สูงขึ้นก็สามารถซื้อแอพเวอร์ชั่น premium มาใช้ได้อีกด้วย
Healthy Life
Booster หวังว่าจะช่วยให้การออกกำลังกายของคุณมีสีสันมากขึ้น
เหนือสิ่งอื่นใดอย่าลืมว่าเราต้องมีเป้าหมายที่แน่ชัดแล้วอย่าทิ้งเป้าหมายนั้นลงกลางทาง
แล้วครั้งต่อไปเราจะเอาการทำงานของ Strava เวอร์ชั่นของนักปั่นมาแนะนำกัน ก็วิ่งบ้างปั่นบ้างสลับกันไป จะได้ไม่เบื่อ...
เนาะ! ^^